TRANSPORT CONTROL TOWER – EMILY JOB COST + DISPATCH
ใช้ข้อมูลจากใบงานคชจ. (Emily-8.12 คชจ.ใบงาน.csv) + ข้อมูลงานเพิ่มเติมในระบบ เพื่อควบคุมทั้งกระบวนการขนส่งตู้ / KPI / การเงิน / Scenario ราคาน้ำมัน–ค่าแรง / Dispatch รายวัน
เข้าสู่ระบบ (จำลอง)
ภาพรวมวันนี้ + ช่วงวันที่สำหรับ KPI / การเงิน / Scenario
ระบบจะอ่านคอลัมน์เช่น ชื่อลูกค้า, เวลารับงาน, รวมต้นทุน, รวมรายรับ, ค่าชอร์, OT พขร, เวลาเข้ารับตู้, เวลาออกรับตู้, พขร.รับ, เลขรถรับ ฯลฯ และแปลงเป็นงานใน Control Tower โดยอัตโนมัติ
KPI Mode:
งานวันนี้
งานทั้งหมด: 0 งาน
เสร็จแล้ว: 0 งาน
มีปัญหา: 0 งาน
สถานะเวลา
เสร็จตรงเวลา: 0 งาน
เสร็จช้า: 0 งาน
หมายเหตุ
– ใช้ช่วงวันที่ + KPI Mode กรองข้อมูลทุกหน้า
– เมื่อนำเข้า Emily CSV ข้อมูลงานจะถูกผูกกับวันจาก เวลารับงาน
เพิ่มงานขนส่งตู้ใหม่ (Manual + งานที่ไม่อยู่ใน Emily)
ใช้สำหรับสร้างงานใหม่เองในระบบ เช่น งานทดลอง, งานที่ยังไม่เข้าไฟล์ Emily หรือภารกิจพิเศษ
ใช้ฟังก์ชันเดียวกับปุ่มด้านบน แต่เน้น workflow ฝั่งปฏิบัติการรายวัน
งานทุกงานจะถูกเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ (localStorage) สามารถปิด–เปิด browser แล้วข้อมูลยังอยู่
งานวันนี้ (ตามวันที่ด้านบน)
ใช้ Stand-up Meeting เช้า – แถวพื้นหลังเหลือง/แดง คือข้อมูลยังไม่ครบตามขั้นตอนปฏิบัติ / หรือมีปัญหาตามใบงาน
# วันที่ ลูกค้า ประเภทงาน สถานที่ / เส้นทาง เจ้าหน้าที่สำนักงาน หัวลาก คนขับ สถานะ เหตุผลปัญหา รายได้ ต้นทุนรวม จัดการ
ตารางจัดส่งรายวัน (Dispatch – 3 กระบวนการตู้คอนเทนเนอร์)
ใช้ดูสถานะ “รับตู้ / ส่งโรงงาน / คืนตู้” รายวัน แยกตามตู้และพนักงานขับรถ – ข้อมูลมาจาก Emily CSV (เวลาเข้ารับตู้, ออกรับตู้, ถึง/ออกโรงงาน, เข้า/ออกคืนตู้, เวลาลงข้อมูลจบ, พขร.รับ/ส่ง/คืน, เลขรถรับ/ส่ง/คืน)
# วันที่ ลูกค้า หมายเลขตู้ พขร.รับ / รถรับ พขร.ส่ง / รถส่ง พขร.คืน / รถคืน กระบวนการรับ
(เข้า–ออก / นาที)
กระบวนการส่ง
(ถึง–ออกโรงงาน / นาที)
กระบวนการคืน
(เข้า–ออกคืนตู้ / นาที)
สถานะภารกิจรวม
สรุป KPI ตามวัน / Owner View
ใช้ช่วงวันที่ + KPI Mode (Daily/Weekly/Monthly) เป็นตัวกรอง – ใช้ได้กับทั้งงานจาก Emily CSV และที่กรอกเอง
วันที่ จำนวนงานทั้งหมด งานเสร็จแล้ว งานเสร็จตรงเวลา งานเสร็จช้า งานมีปัญหา อัตราเสร็จตรงเวลา (%)
สรุปตามเจ้าหน้าที่สำนักงาน (Office Staff)
ดู Workload / Coaching / Bonus จากจำนวนงานและปัญหาต่อคน – ใช้จาก field คนรับผิดชอบ (เจ้าหน้าที่สำนักงาน) หรือ mapping จาก Emily
เจ้าหน้าที่สำนักงาน จำนวนงานทั้งหมด งานเสร็จแล้ว งานมีปัญหา
Owner Dashboard – KPI + Pareto ปัญหา
KPI หลัก
งานทั้งหมด: 0 งาน
เสร็จแล้ว: 0 งาน
เสร็จตรงเวลา: 0 งาน
เสร็จช้า: 0 งาน
มีปัญหา: 0 งาน
ลูกค้าที่มีปัญหาบ่อย (Top)
เส้นทางที่มีปัญหาบ่อย (Top)
Pareto เหตุผลของปัญหา (รวมจาก Emily + Manual)
Document View – SI / VGM / ใบอนุญาต
แสดงเฉพาะงานเอกสารภายในช่วงวันที่ เพื่อควบคุม Cut-off เอกสาร – ถ้าข้อมูลจาก Emily มี field ที่ระบุประเภทเอกสาร สามารถ map มาที่ประเภทงานนี้ได้
# วันที่ ลูกค้า ประเภทเอกสาร เจ้าหน้าที่สำนักงาน สถานะ เหตุผลปัญหา เวลาเป้าหมาย หมายเหตุ
Driver View – งานของคุณวันนี้
จะแสดงเฉพาะงานที่ชื่อคนขับตรงกับชื่อที่ Login และวันที่ตรงกับวันนี้ – ใช้ field พขร.รับผิดชอบ หรือ field คนขับจากงานที่สร้างเอง
# วันที่ ลูกค้า ประเภทงาน สถานที่ หมายเลขตู้ เวลาเป้าหมาย สถานะ
Financial Dashboard – รายเดือน / ต่อคน
ใช้ข้อมูลจาก รวมต้นทุน / รวมรายรับ หรือรวมจากต้นทุน–รายรับย่อยใน Emily มาทำ P&L แยกตามเดือน และเจ้าหน้าที่
สรุปต่อเดือน (Monthly P&L)
เดือน (YYYY-MM) จำนวนเที่ยว รายได้รวม ต้นทุนรวม กำไรรวม กำไร/เที่ยว
สรุปต่อคน (Office Staff)
เจ้าหน้าที่สำนักงาน จำนวนเที่ยว รายได้รวม ต้นทุนรวม กำไรรวม
กราฟ P&L รายเดือน (Baseline จาก Emily + Manual)
ต้นทุนย่อยเฉลี่ยต่อเที่ยว – แยกตามเส้นทาง / ลูกค้า
ถ้าจาก Emily มีคอลัมน์ที่เกี่ยวกับน้ำมัน/ทางด่วน/OT/ค้างคืน ระบบจะ map ไปยัง field ต้นทุนย่อย และคำนวณเฉลี่ยต่อเส้นทาง–ลูกค้า
Average Sub-Cost per Trip – แยกตามเส้นทาง (Route / Location)
เส้นทาง / สถานที่ จำนวนเที่ยว เฉลี่ยน้ำมัน/เที่ยว เฉลี่ยทางด่วน/เที่ยว เฉลี่ยค่าแรง/เที่ยว เฉลี่ยค่าเสียเวลารอ/เที่ยว เฉลี่ยต้นทุนรวม/เที่ยว
Average Sub-Cost per Trip – แยกตามลูกค้า (Customer)
ลูกค้า จำนวนเที่ยว เฉลี่ยน้ำมัน/เที่ยว เฉลี่ยทางด่วน/เที่ยว เฉลี่ยค่าแรง/เที่ยว เฉลี่ยค่าเสียเวลารอ/เที่ยว เฉลี่ยต้นทุนรวม/เที่ยว
Scenario Planning – ราคาน้ำมัน/ค่าแรง & Scenario P&L รายเดือน
ตั้งค่า Scenario
เช่น 20 = น้ำมันแพงขึ้น 20%, -10 = น้ำมันลดลง 10%
(*ถ้าใน Emily ไม่มีคอลัมน์น้ำมัน ระบบจะไม่มีผลต่อ Scenario Fuel)
ใช้จำลองผลจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ / OT พขร จากใบงาน
เลือกช่วงวันที่ให้ครอบคลุมทั้งปี แล้วปรับ Scenario เพื่อดูผลกำไรรวมเปรียบเทียบ
Scenario P&L รายเดือน – เปรียบเทียบ Baseline vs Scenario
ใช้ดูว่าเมื่อปรับน้ำมันขึ้น เช่น 20% เดือนไหนเริ่ม “กำไรติดลบ” เพื่อเตรียมปรับราคา / ลดต้นทุน